วิเคราะห์ก่อนเกม! ลิเวอร์พูล พบ แมนฯ ซิตี้ ซูเปอร์บิ๊กแมตช์พรีเมียร์ลีก
ถือเป็นเกมสำคัญสำหรับทั้ง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เจ้าถิ่นและทางด้าน "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมเยือนเลยทีเดียว เพราะคะแนนในเกม ASIAX8 นี้จะส่งผลต่ออนาคตในการลุ้นแชมป์ช่วงที่เหลือของฤดูกาลได้ทันที แต่ก่อนที่เกมจะเริ่มเราลองไปดูภาพรวมของทั้งสองทีมกันก่อน
1. ทางรอดของ หงส์แดง
Jurgen KloppTottenham Hotspur v Liverpool - Premier League | Marc Atkins/Getty Images
อย่างที่ทราบกันดีว่า ลิเวอร์พูล ชั่วโมงนี้แตกต่างจากทีมแชมป์ในฤดูกาลก่อน ทั้งความมั่นใจ ฟอร์มการเล่น รวมถึงสภาพความพร้อมทีม ทำให้ไม่แปลกที่หลายคนจะมองว่าแม้จะได้เล่นในบ้าน แต่ เรือใบสีฟ้า ก็ดูจะเป็นต่อพวกเขาอยู่พอสมควร ลำพังตัวผู้เล่นครบยังลำบากเลือดตาแทบกระเด็ด แต่นี่แผงหลังตัวหลักไม่อยู่ทั้งแผง นายทวารมือหนึ่งก็ยังไม่ฟิต แถมแนวรุกก็ยังอยู่ในช่วงขาดความมั่นใจ แต่อย่างไรซะทางรอดก็ยังพอมีถ้าหาก...
แฟนบอลหลายท่านอาจจะคิดว่า หงส์แดง จะมาในรูปแบบตั้งรับอย่างเหนี่ยวแน่นและรอโอกาสในการเล่นเกมสวนกลับ แต่ แมนฯ ซิตี้ ในชั่วโมงนี้ที่ชนะมาแล้ว 13 เกมติดและกำลังมั่นใจสุด ๆ บอกได้เลยว่าหากจะปล่อยให้เปิดเกมบุกเข้าใส่ตลอด 90 นาที มีแต่ตายกับตายเท่านั้น และมีแววอาจโดนไม่ต่ำกว่า 3-4 ประตูเป็นแน่ เพราะฉนั้นลองมองในมุมกลับหากพวกเขากลับมาใช้แนวทางที่เคยพาพวกเขาคว้าแชมป์อย่าง "เยอร์เกน เพลสซิ่ง" ไล่บดคู่แข่งไม่ให้ตั้งเกมขึ้นมาง่าย ๆ รวมถึงพยายามครองบอลและเปิดเกมบุกเข้าใส่ ก็อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการเล่นเพื่อ 1 คะแนนหรือตั้งรับเพื่อรอโดนยิงก็เป็นได้ !
2. ไร้ เดอ บรอยน์ ก็ไร้ปัญหา
Kevin De BruyneManchester City v Brighton & Hove Albion - Premier League | Clive Brunskill/Getty Images
เป็นเวลาร่วมเดือนแล้วที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ไร้ซึ่งเพลย์เมคเกอร์อันดับหนึ่งของทีมอย่าง เควิน เดอ บรอยน์ จากอาการบาดเจ็บบริเวณแฮมสตริงเมื่อราวต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่เราคงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าการหายไปของเขานั้นมันแทบไม่ส่งผลอะไรกับทีมเลยตลอด 4-5 สัปดาห์ที่ผ่านมา พิสูจน์ได้ด้วยผลงานที่สามารถคว้าชัยมาครองได้อย่างต่อเนื่อง หนึ่งในสาเหตุสำคัญก็คือบรรดาผู้เล่นในแดนกลางของ เรือใบสีฟ้า ต่างพากันทยอยคืนฟอร์มเก่งกันแบบถูกที่ถูกเวลาเสียจนทดแทนการขาดหายไปได้อย่างไร้ที่ติทั้ง ฟิล โฟเด้น แบร์นาโด้ ซิลวา และรายที่กำลังฮ็อตสุด ๆ อย่าง อิลคาย กุนโดกัน ที่อยู่ดี ๆ ก็สวมรอยเดอะแบกซัดไปแล้วถึง 7 ประตูในช่วง 10 เกมหลังเลยทีเดียว
แน่นอนว่าเกมวันนี้ จะยังคงเป็นอีกนัดที่ แมนฯ ซิตี้ ยังคงไร้ชื่อของกองกลางชาวเบลเยี่ยมรายนี้เป็นที่แน่นอนแล้ว แต่ถึงกระนั้น สำหรับแฟน ๆ ลิเวอร์พูล บอกได้เลยว่าพวกเขาอาจจะนิ่งนอนใจไม่ได้ เพราะความอันตรายของ ซิตี้ จะยังมีเหลือ ๆ ไม่ต่างจากเดิมแน่นอน !
3. สถิติที่น่าสนใจต่าง ๆ แบบ "หมัดต่อหมัด" ในฤดูกาลนี้
Diogo Jota, Bernardo Silva - Soccer MidfielderManchester City v Liverpool - Premier League | Visionhaus/Getty Images
เกมรุก
จำนวนประตูในฤดูกาลนี้ : ลิเวอร์พูล - 43 / แมนฯ ซิตี้ - 39
ได้จากจุดโทษ : ลิเวอร์พูล - 5 / แมนฯ ซิตี้ - 3
ยิงได้จากในกรอบ : ลิเวอร์พูล - 40 / แมนฯ ซิตี้ - 34
ยิงได้จากนอกกรอบ : ลิเวอร์พูล - 3 / แมนฯ ซิตี้ - 5
ยิงได้จากลูกโหม่ง : ลิเวอร์พูล - 8 / แมนฯ ซิตี้ - 4
จำนวนครั้งที่ยิงทั้งหมด : ลิเวอร์พูล - 244 / แมนฯ ซิตี้ - 233
ยิงตรงกรอบ : ลิเวอร์พูล - 124 / แมนฯ ซิตี้ - 119
ยิงชนเสา-คาน : ลิเวอร์พูล - 6 / แมนฯ ซิตี้ - 12
จำนวนครั้งที่จ่ายบอล : ลิเวอร์พูล - 14,643 / แมนฯ ซิตี้ - 14,448
จำนวนครั้งที่จ่ายบอลสำเร็จ : ลิเวอร์พูล - 12,615 / แมนฯ ซิตี้ - 12,851
อัตราการจ่ายบอลสำเร็จ : ลิเวอร์พูล - 86.1% / แมนฯ ซิตี้ - 88.9%
เกมรับ
จำนวนประตูที่เสีย : ลิเวอร์พูล - 25 / แมนฯ ซิตี้ - 13
คลีนชีท : ลิเวอร์พูล - 6 / แมนฯ ซิตี้ - 13
เสียประตูจากในกรอบ : ลิเวอร์พูล - 22 / แมนฯ ซิตี้ - 11
เสียประตูจากนอกกรอบ : ลิเวอร์พูล - 3 / แมนฯ ซิตี้ - 2
บล็อคลูกยิง : ลิเวอร์พูล - 29 / แมนฯ ซิตี้ - 40
เข้าสะกัด : ลิเวอร์พูล - 199 / แมนฯ ซิตี้ - 172
ใบเหลือง : ลิเวอร์พูล - 23 / แมนฯ ซิตี้ - 23
ใบแดง : ลิเวอร์พูล - 0 / แมนฯ ซิตี้ - 0
4. คาดการณ์ก่อนเกม
FBL-ENG-PR-MAN CITY-LIVERPOOLFBL-ENG-PR-MAN CITY-LIVERPOOL | DAVE THOMPSON/Getty Images
เกมนี้คาดว่าทั้งสองทีมจะเริ่มต้นด้วยการเล่นกันอย่างรัดกุม ค่อย ๆ เคาะบอลหาจังหวะหาพื้นที่เข้าทำและสู้กันบริเวณกลางสนามเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม เป๊ป คงต้องสั่งให้ลูกทีมเน้นครองบอลบุกเข้าใส่ตามสไตล์อย่างแน่นอน ต้องมาลุ้นกันว่าแนวรับที่ดูกระท่อนกระแท่นของ หงส์แดง แม้ว่าจะได้ 2 แข้งเซ็นเตอร์รายใหม่เข้ามาแต่คาดกันว่าจะยังไม่มีชื่อในเกมวันนี้ จะสามารถต้านทานเกมรุกอันดุดันของทีมเยือนได้หรือไม่ แถมบรรดาผู้เล่นแนวรุกที่เริ่มถูกตั้งคำถามของเจ้าถิ่นจะหาทางเจาะหลังบ้านที่ขึ้นชื่อว่าแข็งสุด ๆ ณ เวลานี้ได้อย่างไร 5 ทุ่มครึ่งวันนี้รู้กัน !
คาดการณ์สกอร์ : ลิเวอร์พูล 0-2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
เยอร์เก้น คล็อปป์ กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในเกมที่ ลิเวอร์พูล จะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมจ่าฝูงในศึก คาสิโนออนไลน์ สเต็ปแตก พรีเมียร์ลีก วันอาทิตย์นี้ว่า พวกเขาจะต้องเน้นเกมรับให้เหนียวแน่นและเล่นด้วยความกล้าหาญ ตามรายงานจาก ลิเวอร์พูลเอ็คโค่
ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา เก็บชัยชนะ 13 เกมรวดในทุกรายการและนำเป็นจ่าฝูงของตารางอยู่ในขณะนี้ด้วยการลงเล่น 21 นัด มี 47 คะแนนห่างจาก หงส์แดง ที่ลงเล่นมากกว่า 1 นัดอยู่ 7 คะแนน โดยกุนซือชาวเยอรมันได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า
![](https://s.isanook.com/sp/0/rp/r/w728/ya0xa0m1w0/aHR0cHM6Ly9zLmlzYW5vb2suY29tL3NwLzAvdWQvMjM4LzExOTAzMjkva2xvcHphYWFhLmpwZw==.jpg)
"เห็นได้ชัดว่า ซิตี้ ในเวลานี้อยู่ในช่วงเวลาแตกต่างจากที่เราเป็นอยู่เล็กน้อย เราต้องไม่ลืมเรื่องนี้ สิ่งที่ชัดเจนก็คือ ถ้าเกมรับของคุณไม่ท็อปฟอร์มในการเจอกับพวกเขา คุณก็จะไม่ได้อะไรกลับมาเลยจากเกมนี้"
"แต่นี่เป็นอีกช่วงเวลาหนึ่งที่คุณจะต้องแสดงออกถึงความกล้าหาญ และนั่นคือสิ่งที่เรากำลังพยายามกันอยู่ นี่คือช่วงเวลาที่ไม่ใช่แค่ต้องควบคุมเกมให้ได้ แต่คุณต้องคุมสถานการณ์ไว้ด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่เราพยายามเช่นกัน" นายใหญ่ หงส์แดง ระบุ
1. ทางรอดของ หงส์แดง
![](https://images2.minutemediacdn.com/image/upload/c_fill,w_720,ar_16:9,f_auto,q_auto,g_auto/shape/cover/sport/Tottenham-Hotspur-v-Liverpool---Premier-League-6cb4cae170b3ad41563b2631102344e5.jpg)
อย่างที่ทราบกันดีว่า ลิเวอร์พูล ชั่วโมงนี้แตกต่างจากทีมแชมป์ในฤดูกาลก่อน ทั้งความมั่นใจ ฟอร์มการเล่น รวมถึงสภาพความพร้อมทีม ทำให้ไม่แปลกที่หลายคนจะมองว่าแม้จะได้เล่นในบ้าน แต่ เรือใบสีฟ้า ก็ดูจะเป็นต่อพวกเขาอยู่พอสมควร ลำพังตัวผู้เล่นครบยังลำบากเลือดตาแทบกระเด็ด แต่นี่แผงหลังตัวหลักไม่อยู่ทั้งแผง นายทวารมือหนึ่งก็ยังไม่ฟิต แถมแนวรุกก็ยังอยู่ในช่วงขาดความมั่นใจ แต่อย่างไรซะทางรอดก็ยังพอมีถ้าหาก...
แฟนบอลหลายท่านอาจจะคิดว่า หงส์แดง จะมาในรูปแบบตั้งรับอย่างเหนี่ยวแน่นและรอโอกาสในการเล่นเกมสวนกลับ แต่ แมนฯ ซิตี้ ในชั่วโมงนี้ที่ชนะมาแล้ว 13 เกมติดและกำลังมั่นใจสุด ๆ บอกได้เลยว่าหากจะปล่อยให้เปิดเกมบุกเข้าใส่ตลอด 90 นาที มีแต่ตายกับตายเท่านั้น และมีแววอาจโดนไม่ต่ำกว่า 3-4 ประตูเป็นแน่ เพราะฉนั้นลองมองในมุมกลับหากพวกเขากลับมาใช้แนวทางที่เคยพาพวกเขาคว้าแชมป์อย่าง "เยอร์เกน เพลสซิ่ง" ไล่บดคู่แข่งไม่ให้ตั้งเกมขึ้นมาง่าย ๆ รวมถึงพยายามครองบอลและเปิดเกมบุกเข้าใส่ ก็อาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการเล่นเพื่อ 1 คะแนนหรือตั้งรับเพื่อรอโดนยิงก็เป็นได้ !
2. ไร้ เดอ บรอยน์ ก็ไร้ปัญหา
![](https://images2.minutemediacdn.com/image/upload/c_fill,w_720,ar_16:9,f_auto,q_auto,g_auto/shape/cover/sport/Manchester-City-v-Brighton--Hove-Albion---Premier--09c1182f606cbc637d2d6ee521468120.jpg)
เป็นเวลาร่วมเดือนแล้วที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ไร้ซึ่งเพลย์เมคเกอร์อันดับหนึ่งของทีมอย่าง เควิน เดอ บรอยน์ จากอาการบาดเจ็บบริเวณแฮมสตริงเมื่อราวต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา แต่เราคงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าการหายไปของเขานั้นมันแทบไม่ส่งผลอะไรกับทีมเลยตลอด 4-5 สัปดาห์ที่ผ่านมา พิสูจน์ได้ด้วยผลงานที่สามารถคว้าชัยมาครองได้อย่างต่อเนื่อง หนึ่งในสาเหตุสำคัญก็คือบรรดาผู้เล่นในแดนกลางของ เรือใบสีฟ้า ต่างพากันทยอยคืนฟอร์มเก่งกันแบบถูกที่ถูกเวลาเสียจนทดแทนการขาดหายไปได้อย่างไร้ที่ติทั้ง ฟิล โฟเด้น แบร์นาโด้ ซิลวา และรายที่กำลังฮ็อตสุด ๆ อย่าง อิลคาย กุนโดกัน ที่อยู่ดี ๆ ก็สวมรอยเดอะแบกซัดไปแล้วถึง 7 ประตูในช่วง 10 เกมหลังเลยทีเดียว
แน่นอนว่าเกมวันนี้ จะยังคงเป็นอีกนัดที่ แมนฯ ซิตี้ ยังคงไร้ชื่อของกองกลางชาวเบลเยี่ยมรายนี้เป็นที่แน่นอนแล้ว แต่ถึงกระนั้น สำหรับแฟน ๆ ลิเวอร์พูล บอกได้เลยว่าพวกเขาอาจจะนิ่งนอนใจไม่ได้ เพราะความอันตรายของ ซิตี้ จะยังมีเหลือ ๆ ไม่ต่างจากเดิมแน่นอน !
3. สถิติที่น่าสนใจต่าง ๆ แบบ "หมัดต่อหมัด" ในฤดูกาลนี้
![](https://images2.minutemediacdn.com/image/upload/c_fill,w_720,ar_16:9,f_auto,q_auto,g_auto/shape/cover/sport/Manchester-City-v-Liverpool---Premier-League-363c35e6126705b210c03128259bafdf.jpg)
เกมรุก
จำนวนประตูในฤดูกาลนี้ : ลิเวอร์พูล - 43 / แมนฯ ซิตี้ - 39
ได้จากจุดโทษ : ลิเวอร์พูล - 5 / แมนฯ ซิตี้ - 3
ยิงได้จากในกรอบ : ลิเวอร์พูล - 40 / แมนฯ ซิตี้ - 34
ยิงได้จากนอกกรอบ : ลิเวอร์พูล - 3 / แมนฯ ซิตี้ - 5
ยิงได้จากลูกโหม่ง : ลิเวอร์พูล - 8 / แมนฯ ซิตี้ - 4
จำนวนครั้งที่ยิงทั้งหมด : ลิเวอร์พูล - 244 / แมนฯ ซิตี้ - 233
ยิงตรงกรอบ : ลิเวอร์พูล - 124 / แมนฯ ซิตี้ - 119
ยิงชนเสา-คาน : ลิเวอร์พูล - 6 / แมนฯ ซิตี้ - 12
จำนวนครั้งที่จ่ายบอล : ลิเวอร์พูล - 14,643 / แมนฯ ซิตี้ - 14,448
จำนวนครั้งที่จ่ายบอลสำเร็จ : ลิเวอร์พูล - 12,615 / แมนฯ ซิตี้ - 12,851
อัตราการจ่ายบอลสำเร็จ : ลิเวอร์พูล - 86.1% / แมนฯ ซิตี้ - 88.9%
เกมรับ
จำนวนประตูที่เสีย : ลิเวอร์พูล - 25 / แมนฯ ซิตี้ - 13
คลีนชีท : ลิเวอร์พูล - 6 / แมนฯ ซิตี้ - 13
เสียประตูจากในกรอบ : ลิเวอร์พูล - 22 / แมนฯ ซิตี้ - 11
เสียประตูจากนอกกรอบ : ลิเวอร์พูล - 3 / แมนฯ ซิตี้ - 2
บล็อคลูกยิง : ลิเวอร์พูล - 29 / แมนฯ ซิตี้ - 40
เข้าสะกัด : ลิเวอร์พูล - 199 / แมนฯ ซิตี้ - 172
ใบเหลือง : ลิเวอร์พูล - 23 / แมนฯ ซิตี้ - 23
ใบแดง : ลิเวอร์พูล - 0 / แมนฯ ซิตี้ - 0
4. คาดการณ์ก่อนเกม
![](https://images2.minutemediacdn.com/image/upload/c_fill,w_720,ar_16:9,f_auto,q_auto,g_auto/shape/cover/sport/FBL-ENG-PR-MAN-CITY-LIVERPOOL-1dcace56e8719e27efa4adea4f9e1d8b.jpg)
เกมนี้คาดว่าทั้งสองทีมจะเริ่มต้นด้วยการเล่นกันอย่างรัดกุม ค่อย ๆ เคาะบอลหาจังหวะหาพื้นที่เข้าทำและสู้กันบริเวณกลางสนามเป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม เป๊ป คงต้องสั่งให้ลูกทีมเน้นครองบอลบุกเข้าใส่ตามสไตล์อย่างแน่นอน ต้องมาลุ้นกันว่าแนวรับที่ดูกระท่อนกระแท่นของ หงส์แดง แม้ว่าจะได้ 2 แข้งเซ็นเตอร์รายใหม่เข้ามาแต่คาดกันว่าจะยังไม่มีชื่อในเกมวันนี้ จะสามารถต้านทานเกมรุกอันดุดันของทีมเยือนได้หรือไม่ แถมบรรดาผู้เล่นแนวรุกที่เริ่มถูกตั้งคำถามของเจ้าถิ่นจะหาทางเจาะหลังบ้านที่ขึ้นชื่อว่าแข็งสุด ๆ ณ เวลานี้ได้อย่างไร 5 ทุ่มครึ่งวันนี้รู้กัน !
คาดการณ์สกอร์ : ลิเวอร์พูล 0-2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้
แผนเด็ดหยุดทัพเรือ! "คล็อปป์" เปรยแทคติกที่จะใช้เกมพบกับ แมนฯ ซิตี้ คืนนี้
ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา เก็บชัยชนะ 13 เกมรวดในทุกรายการและนำเป็นจ่าฝูงของตารางอยู่ในขณะนี้ด้วยการลงเล่น 21 นัด มี 47 คะแนนห่างจาก หงส์แดง ที่ลงเล่นมากกว่า 1 นัดอยู่ 7 คะแนน โดยกุนซือชาวเยอรมันได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า
![](https://s.isanook.com/sp/0/rp/r/w728/ya0xa0m1w0/aHR0cHM6Ly9zLmlzYW5vb2suY29tL3NwLzAvdWQvMjM4LzExOTAzMjkva2xvcHphYWFhLmpwZw==.jpg)
"เห็นได้ชัดว่า ซิตี้ ในเวลานี้อยู่ในช่วงเวลาแตกต่างจากที่เราเป็นอยู่เล็กน้อย เราต้องไม่ลืมเรื่องนี้ สิ่งที่ชัดเจนก็คือ ถ้าเกมรับของคุณไม่ท็อปฟอร์มในการเจอกับพวกเขา คุณก็จะไม่ได้อะไรกลับมาเลยจากเกมนี้"
"แต่นี่เป็นอีกช่วงเวลาหนึ่งที่คุณจะต้องแสดงออกถึงความกล้าหาญ และนั่นคือสิ่งที่เรากำลังพยายามกันอยู่ นี่คือช่วงเวลาที่ไม่ใช่แค่ต้องควบคุมเกมให้ได้ แต่คุณต้องคุมสถานการณ์ไว้ด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่เราพยายามเช่นกัน" นายใหญ่ หงส์แดง ระบุ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น